The Falls (2011) สวนทาง – หนังตัวเเทนชิงออสก้าจากไต้หวัน เมื่อครอบครัวต้องเจอปัญหาเพราะโควิด

The Falls (สวนทาง) เป็นหนังดราม่าครอบครัวสายรางวัลจากไต้หวันที่กวาดรางวัลม้าทองคำมาหลายรางวัล ตั้งแต่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดารานำยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม อีกทั้งเป็นอีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับมากความสามารถ Mong-Hong Chung ที่เคยฝากผลงานตรึงใจมาเเล้วในเรื่อง A Sun เรื่องราวดราม่าโศกนาฎกรรมของการเลี้ยงดูบุตรในครอบครัวฐานะยากจนที่ต้องสู้ชีวิตปากกัดตีนถีบ ซึ่งแฝงทั้งเเง่คิด ปรัชญา คำคมเอาไว้ในเรื่องมากมายเเละตอนจบที่ตราตรึงใจเเละทำให้เราเข้าใจได้เลยว่าเเสงอาทิตย์มันยุติธรรมเพียงใด

เรื่องย่อ The Falls – พิงเหวิน แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสาวคนเดียวที่ต้องเผชิญปัญหาจากความไม่ลงรอยกันกับลูกวัยรุ่น ในขณะที่งานที่เธอทำมากกว่า 10 กว่า ต้องมีปัญหาจากวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด 19 จนเธอต้องพักงานมาดูแลลูกที่ถูกกักตัวอยู่กับบ้าน 14 วันหลังจากที่โรงเรียนตรวจพบว่าเพื่อนร่วมห้องเธอติดเชื้อโควิด 19 แต่แล้วในระหว่างที่เธออยู่ช่วยลูกสาวกักตัว ความสัมพันธ์กับลูกก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ จนสภาพจิตใจเธอรับไม่ไไหวกลายเป็นผู้ป่วยทางจิตในที่สุด เสี่ยวจิ้ง ลูกสาวของเธอจึงต้องกลายมาเป็นคนดูแลแม่แทน และก็ได้รับรู้ถึงความลำบากต่างๆ ที่แม่ของเธอต้องรับผิดชอบมาตลอด

The Falls เป็นหนังที่นำสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมาเป็นฉากหลังในการดำเนินเรื่องเเละกระตุ้นให้ปัญหาต่าง ๆ ที่เก็บเอาไว้ค่อย ๆ ระเบิดออกมาเรื่อย ๆ ที่ละน้อย โดยเล่าเรื่องราวผ่านตัวละคร พิงเหวิน เเม่เลี้ยงเดียวที่ต้องเลี้ยงดูลูกสาว ในช่วงต้นเรื่องหนังจะเเสดงให้เห็นถึงปัญหาความไม่เข้าใจกันของเเม่เเละลูกตามประสาวัยรุ่นเเละผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจกันตามปกติ เเละเมื่อเเม่ต้องพบเจอปัญหาจากที่ทำงาน ความเครียดที่โถมเข้าใส่เเม่อย่างหนักหน่วงทำให้เรื่องราวยิ่งเเย่ลงไปเรื่อย ๆ เเล้วหนังก็มาเผยจุดหักมุมตั้งเเต่ ช่วง 20 นาทีเเรกว่า ขณะนี้ปัญหาที่เเม่เจอคืออาการทางจิตเวทย์ ที่เห็นภาพหลอนหรือมีเสียงในหู ทำให้ลูกต้องกลายเป็นคนรับภาระทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งการดูเเลเเม่เเละค่าใช้จ่าย หนี้สินที่มีอยู่ ตัวหนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมง เเม้จะมีเล่าช้าบ้างเเต่ว่าเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้นก็ชวนติดตามตลอดเรื่องทำให้ไม่น่าเบื่อเลย เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้หวือหวาอะไร ตัดอารมณ์ด้วยการสร้างความไม่ไว้วางใจที่ ผู้กำกับคนนี้ทำได้ดีมากตั้งเเต่ใน A Sun เเล้ว

สิ่งที่ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้ดูกลมกล่อมมากขึ้นคือเสียงดนตรีประกอบที่เข้ากับแต่ละช่วงของฉากที่ต้องการบิ้วอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มีทั้งสุข เศร้า ปนกันไป อาจจะไม่ถึงกับเด่นมาก แต่มันก็ทำหน้าที่ช่วยให้เรื่องที่ดูเหงาๆ เศร้าๆ ดูดีขึ้นมาก ทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง

อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ คือการจัดองค์ประกอบภาพเเละองค์ประกอบศิลป์ นับว่าเป็นงานศิลป์ชั้นยอดไม่ว่าจะเป็นการคุยกันโดยมีกระจกสะท้อน การวางองค์ประกอบภาพซ้ายขวา การกดดันด้วยการฉายเเคป การจัดเเสงที่ทำได้เนียนตา การสาดเเสงสีฟ้าเข้ามาด้านหน้าเเละฉายเเสงสีเขียวอ่อนๆจากด้านหลัง ส่งอารมณ์หนาวเหน็บได้สุดขั้วหัวใจ เเละการใช่เเสงพระอาทิตยืที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับคนนี้อยู่เสมอ ต้องบอกเลยว่าผู้กำกับคนนี้เป็นคงที่วางองค์ประกอบศิลป์ได้ดีเเละใช้เเสงอาทิตย์ได้ทรงพลังมาก ๆ

โดยรวม ๆ เเล้ว ชอบมากกกก​ ก.ไก่ล้านตัว ถ่ายสวย​ เเม้จะเดินเรื่องช้ามาก ๆ เเละเลือกที่จะจบเเบบนี้ก็ตาม​ เเต่​ เรื่องการถ่ายการจัดองค์ประกอบศิลป์​ การสร้างตัวละคร​ การสร้างความไม่น่าไว้ใจ​ ผกก.​ คนนี้คือสุดยอด​ 10/10​ สำหรับเรา​ เเต่ไม่ใช่สำหรับทุกคนเเน่นอนคิดว่าถ้าใครเคยดู A Sun เเล้วชอบ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะพลาดงานเรื่องนี้ ดูเถอะขอร้องหนังดีจริงๆ

รับชมได้เเล้ววันนี้ที่ Netflix

แสดงความคิดเห็น